BREAKING NEWS

หนุ่มคลิปดังวอนจบเรื่อง แท็กซี่เมิน เอาผิดถึงที่สุด!(คลิป)

แท็กซี่ในคลิป ‘นักเลงสุขสวัสดิ์ 30′ ไม่ยอมความหนุ่ม จยย.รับจ้าง เมาหาเรื่อง จนต้องดับเครื่องชนคู่กรณีเจ็บสาหัส ก่อนถูกชาวบ้านรุมทำร้าย ขณะคู่กรณีขอจบเรื่อง
จากกรณีมีการเผยแพร่คลิป“นักเลงสุขสวัสดิ์30″พร้อมข้อความ”ขับรถอยู่ดีดีก็โดนทำลายทรัพย์และก็โดนทำร้ายร่างกาย” ของคุณ “tanoize za” โดยปรากฏภาพจากหน้ากล้องรถแท็กซี่ได้ขับเข้ามาในซอยสุขสวัสดิ์ 30 กลับเจอชายวัยรุ่นรอยสักเต็มตัวถอดเสื้อยืนขวางหน้ารถ พร้อมมีอาการฉุนเฉียวตะโกนด่าทอและใช้สิ่งของฟาดที่รถ จนคนขับได้เร่งเครื่องหนีจนชนชายดังกล่าวก่อนเสียหลักพุ่งชนกำแพงบ้าน จากนั้นก็มีกลุ่มคนเข้ามารุมทำร้าย
เมื่อคลิปดังกล่าว ได้มีการเผยแพร่ออกไป โลกออนไลน์ต่างแสดงความคิดอย่างกว้างขวาง พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบเรื่องดังกล่าวว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

วันที่ 9 ส.ค.58 มีรายงานว่าบุคคลที่ขับแท็กซี่ดังกล่าวชื่อนายวิโรจน์ อายุ 48 ปี เล่าถึงเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.00 น. ขณะที่ขับเข้าไปในซอยสุขสวัสดิ์ 30 บังเอิญพบชายคนดังกล่าวซึ่งมีอาการขาดสติตามในคลิปพยายามเข้ามาทำร้ายตนในรถ จึงพยายามเร่งเครื่องหนี แต่กลับไปชนชายดังกล่าวก่อนชนกำแพงบ้านแล้วถูกกลุ่มคนละแวกนั้นเข้าทำร้าย จนร่างกายได้บาดเจ็บหนักที่ใบหน้า ฟันหัก และเศษกระจกบาดตามตัว

ทั้งที่ตนพยายามอธิบายแล้วว่าไม่ใช่คนผิด แต่ถูกกระทำก่อนตั้งแต่เริ่มต้น โชคดีมีทหารเข้ามาคุมสถานการณ์ไว้และตนได้รีบเก็บกล้องหน้ารถไว้กับตัว จนหลานชายนำไปโพสต์ขอความเป็นธรรมให้ และขอเอาเรื่องถึงที่สุด มิเช่นนั้น อาจต้องตกเป็นจำเลยสังคมได้
ขณะที่คู่กรณี คือ นายปิติพงศ์ อายุ 29 ปี อาชีพรับจ้างขับรถ จยย.ในซอยดังกล่าว เพิ่งออกจากโรงพยายาบาลหลังรักษาตัว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสเนื่องจากถูกรถทับที่หลัง เดิน-นั่งลำบาก โดยยอมรับ รู้สึกเครียดเมื่อเห็นคลิปดังกล่าว ซึ่งวันเกิดที่เกิดเหตุการณ์ได้ดื่มสุรา และมีเรื่องกับคู่อริจึงจะเดินข้ามถนนไปเอาเรื่อง
แต่กลับเจอรถแท็กซี่ดังกล่าว ไม่ยอมจอดให้ข้ามและยังคุยโทรศัพท์จึงเกิดอาการโมโหเอาเสื้อฟาดรถ พร้อมกับวิ่งไปหยิบท่อนไม้มา เพื่อจะฟาดคู่กรณีฝั่งตรงข้าม ไม่ได้หมายจะทำร้ายแท็กซี่ แต่คงเข้าใจผิด จึงถอยหลังตั้งหลักและพุ่งชนจนตนสลบ ไปรู้สึกตัวอีกครั้งที่โรงพยาบาล
ส่วนเรื่องกลุ่มคนที่ไปทำร้ายแท็กซี่ต่อจากนั้น คาดว่าเข้าใจผิด เพราะไม่ได้เห็นเหตุการณ์แต่ต้น ยอมรับเหตุที่เกิดขึ้นเพราะตนอารมณ์ร้อนจนเกิดเหตุการณ์เข้าใจผิดกัน จึงอยากให้จบเรื่อง เพราะต่างฝ่ายต้องทำมาหากิน
ที่มา: mthai.com
 
สงวนลิขสิทธิ์ © ข่าว ไทย