BREAKING NEWS

6 คนดังเก่งขั้นเทพ ดีกรีศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยดังระดับโลก

6 คนดังเก่งขั้นเทพ ดีกรีศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยดังระดับโลก

หรือ พี่นัท แชมป์ AF4 นั่นเอง ต้องบอกก่อนว่าโพรไฟล์หนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาค่ะ โดยตอน ม.ต้น เรียนที่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย ได้เกรด 4 มาตลอด ส่วน ม.ปลายบินไปเรียนต่อที่อเมริกา พอมาระดับมหาวิทยาลัยนี่ยิ่งไม่ธรรมดาใหญ่เลย เพราะได้รับการตอบรับเข้าเรียนในสาขาคณิตศาสตร์ประยุกต์ (ภายหลังเปลี่ยนเป็นเศรษฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด หรือ Harvard University สถาบันระดับท็อปของโลก!! เรียกว่าจัดอันดับทีไรก็ไม่เคยหลุด TOP3 ของโลกไปเลย ดังและดีจริงอะไรจริง
        สำหรับการเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดนั้น สิ่งที่ต้องมีคือ 
เกรดเฉลี่ยตอนมัธยมปลายที่ควรต้องเก่งขั้นเทพ + คะแนนสอบ SAT + Statement of Purpose(SOP)หรือเรียงความ ซึ่งตัวเรียงความนี้แหละค่ะที่จะทำให้คณาจารย์ที่ตัดสินมองเห็นศักยภาพในตัวเรา โดยพี่นัทได้เลือกเขียน SOP ในหัวข้อ "เพื่อนทรยศ" เพราะตอนมัธยมเคยถูกเพื่อนสนิทลอกรายงานจนตัวเองเกือบโดนอาจารย์ปรับตก(เพื่อนร้ายมาก) แต่สุดท้ายก็ยอมกลับมาเป็นเพื่อนเหมือนเดิม โดยพี่นัทก็เขียนเล่าไปว่า รู้สึกเสียใจมากที่เพื่อนสนิททำกันได้ลง แต่สุดท้ายก็ให้อภัยและกลับมาคบกันต่อไป
6 คนดังเก่งขั้นเทพ ดีกรีศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยดังระดับโลก

 หรือ "พี่นินา" นักร้องและนักแสดงที่น้องๆ หลายคนน่าจะรู้จักกันดี (ถ้าเป็นรุ่นของพี่ ก็จะคุ้นจากตอนออกเทปเมื่อประมาณ 14 ปีก่อน) หลังจากที่พี่นินาออกอัลบั้มแรกแล้ว ก็ได้เดินทางไปอเมริกาเพื่อศึกษาต่อด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ (Cornell University) พูดเลยว่าสถาบันนี้ดังมากทีเดียวค่ะ ถ้าในระดับโลกจะอยู่ที่อันดับประมาณ 50 และที่สำคัญ สาขาสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่พี่นินาเรียนจบมานั้น ก็เคยถูกยกย่องจากวารสารการออกแบบฉบับหนึ่งของอเมริกาว่าให้เป็น หลักสูตรสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของอเมริกาเลยทีเดียว ไม่หมดแค่นั้น เจ้าตัวยังเรียนจบปริญญาตรีมาพร้อมเกียรตินิยมอันดับ 1 อีก ยังไม่หมด!! ยังเข้าเรียนปริญญาโทต่อที่ Graduate School of Design(ปริญญาโทด้านการออกแบบ) มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โอ้โห คนอะไรเนี่ยทั้งสวยทั้งเก่ง
       สำหรับตอนนี้ นอกจากจะมีผลงานในวงการบันเทิงบ้างประปราย พี่นินาก็ยังทำงานเป็นสถาปนิกและเป็นอาจารย์พิเศษที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ (ภาคภาษาอังกฤษ) จุฬาฯ ด้วยล่ะค่ะ
6 คนดังเก่งขั้นเทพ ดีกรีศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยดังระดับโลก

หรือ "พี่แบม" พิธีกรและนักการเมืองสุดสวยคนนี้ เรียนจบปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ และเรียนต่อปริญญาโทสาขาการพัฒนาภูมิภาคและเมือง ที่ London School of Economics & Political Science (LSE) ประเทศอังกฤษ ต้องบอกเลยค่ะว่าสถาบันนี้ถือว่าดังมากๆ ในหมู่เด็กที่เรียนรัฐศาสตร์และสังคมศาสตร์ เพราะหลักสูตรที่นี่ติด TOP5 ของด้านรัฐศาสตร์และสังคมศาสตร์ที่ดีที่สุดในโลกเลยทีเดียว อย่างคะแนนสอบภาษาอังกฤษที่กำหนดไว้สำหรับคนที่จะสมัครเข้าเรียน ก็กำหนดไว้สูงมากเลยล่ะค่ะ อย่าง IELTS ต้องได้ขั้นต่ำที่ 7.0 คะแนน (เต็ม 9.00) หรือใครจะเลือกสอบ TOEFL(iBT) ก็ต้องได้ถึง 107 คะแนน(เต็ม 120) จริงๆ อย่าง TOEFL สอบได้ 80 คะแนนก็ถือว่าเยี่ยมแล้ว นี่ต้องได้ 107 เลย โอ้ววว
       หลังเรียนจบ พี่แบมก็ทำงานตรงสาย โดยได้เข้าทำงานที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก่อนจะเข้าสู่วงการบันเทิงและวงการการเมืองค่ะ
6 คนดังเก่งขั้นเทพ ดีกรีศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยดังระดับโลก

หรือที่รู้จักกันในชื่อของ "คริส หอวัง" ก่อนจะเข้าวงการบันเทิงมาเป็นนางเอกภาพยนตร์ พี่คริสเคยเป็นครูสอนเต้นมาก่อน ตรงกับสาขาที่เรียนจบมาเด๊ะๆ เพราะตอนเด็กๆ เจ้าตัวเคยบินไปเรียนมัธยมที่ไฮสคูลที่อเมริกาซึ่งเป็นโรงเรียนสอนศิลปะโดยเฉพาะ นั่นคือ Walnut Hill School for the arts และเลือกลงวิชาด้านการเต้นเป็นหลัก พอจบมัธยม ก็เข้าเรียนต่อปริญญาตรีสาขาการเต้น จาก California Institute of Art หรือ CalArts ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งปัจจุบันถือเป็นมหาวิทยาลัยด้านศิลปะที่ดีที่สุดอันดับ 7 ของโลก เจ้าตัวบอกว่าที่เลือกไปเรียนเต้นที่ต่างประเทศ เพราะในบ้านเรายังไม่ค่อยมีสอนเต้นในระดับปริญญาตรีโดยตรงมากนัก เลยขอบินไปเมืองนอกเพื่อศึกษาอย่างจริงจัง สำหรับค่าเรียนที่ CalArts นั้น ปัจจุบันตกปีละประมาณ 1,400,000 - 1,500,000 บาทค่ะ
         พี่คริสบอกว่า การเรียนเต้นไม่ใช่เต้นไปตามเพลงอย่างเดียว แต่เรียนลึกลงไปถึงร่างกายเลยว่า การเต้นใช้กล้ามเนื้อกี่มัด ถ้าเต้นแล้วล้ม ต้องจัดการกับร่างกายยังไง หรือต้องเรียนการออกแบบท่าเต้นตามโจทย์ที่ได้รับมา ซึ่งยากมากแต่ก็สนุกและท้าทายสุดๆ ไปเลย
6 คนดังเก่งขั้นเทพ ดีกรีศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยดังระดับโลก

พูดชื่อนามสกุลจริง หลายคนอาจจะไม่คุ้นมาก แต่ถ้าบอกว่า "แพรี่พาย" หลายคนต้องร้องอ๋อแน่นอนโดยเฉพาะน้องๆ ที่ชอบติดตามบล็อกเกอร์หรือกูรูด้านการแต่งหน้า เรียกว่าเป็นไอดอลของใครหลายคน เพราะพี่แพรนั้นเป๊ะเวอร์ทั้งหน้าตาและความสามารถ จนมีโอกาสได้เข้าร่วมเป็นเมคอัพอาร์ติสให้แบรนด์และรันเวย์ระดับโลกมาแล้วหลายงาน
        สำหรับประวัติการศึกษานั้น เจ้าตัวจบปริญญาตรีจาก University of Arts, London ค่ะ ชื่อสถาบันก็บอกแล้วว่าเป็นมหาวิทยาลัยด้านศิลปะโดยเฉพาะ แถมในปีล่าสุดก็ถูกจัดให้เป็นมหาวิทยาลัยด้านศิลปะที่ดีที่สุดอันดับ 8 ของโลก!!  ที่นี่มีวิทยาลัยในสังกัด 6 แห่ง ซึ่งพี่แพรจบจาก Central Saint Martins หรือเรียกสั้นๆ ว่า เซนต์มาร์ตินส์ ในสาขาการออกแบบการแสดงเป็นหลักสูตรที่เรียนเกี่ยวกับการออกแบบการแสดงละครเวทีและละครโทรทัศน์ ไม่ใช่แค่หน้าเวทีหรือหน้าจอทีวีเท่านั้น แต่เรียนลึกถึงเบื้องหลังการทำงานด้วยค่ะ
        ใครอยากเข้าเรียนที่นี่ ก็ต้องเตรียมแฟ้มสะสมผลงานเอาไว้ค่ะ เพราะการเข้าเรียนที่นี่ เน้นพิจารณาจากผลงานเป็นหลัก ส่วนค่าเทอมต่อปีอยู่ที่ประมาณ 800,000 บาท ค่อนข้างสูงเพราะการเรียนด้านศิลปะต้องใช้เครื่องมืออุปกรณ์ค่อนข้างมาก แต่ทางมหาวิทยาลัยมีทุนจำนวนมากมอบให้นักเรียนต่างชาติ ใครสนใจสามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยได้ค่ะ
6 คนดังเก่งขั้นเทพ ดีกรีศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยดังระดับโลก

ปิดท้ายที่ผู้ชายมากความสามารถคนนี้ เค้าไม่ใช่คนไทยค่ะ แต่เป็นนักร้องเกาหลีที่มีชื่อเสียงมาก และอดไม่ได้ที่จะนำมารวมด้วย เพราะเรื่องราวของเค้านั้นน่าสนใจมากๆ .... หนุ่มคนนี้มีชื่อว่า อีซอนอุงหรือใช้ชื่อในวงการเพลงเกาหลีว่า ทาโบล เป็นแร็พเปอร์ของวง Epik High ซึ่งเป็นวงฮิปฮอปแนวหน้าของเกาหลีที่ดังมากๆๆ โดยก่อนจะเข้าวงการ ทาโบลเรียนจบจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด หรือ Stanford University สหรัฐอเมริกา ระดับปริญญาตรีในสาขาวรรณกรรมอังกฤษ และปริญญาโทในสาขาการเขียนอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งสถาบันที่เค้าจบมาปัจจุบันถือเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 3 ของโลก!! เก่งมากๆ เลยใช่มั้ยคะ

       แต่ความเก่งของทาโบลกลับเป็นที่สงสัยของคนกลุ่มหนึ่งที่เกิดสงสัยว่า ทาโบลเรียนจบจากสแตนฟอร์ดจริงเหรอ? เพราะสแตนฟอร์ดนี่ดังมากๆๆ เลยนะ กลุ่มคนดังกล่าวซึ่งน่าจะเป็นแอนตี้แฟนได้พยายามขุดคุ้ยประวัติการศึกษาของทาโบล ส่งอีเมลติดต่อไปยังอาจารย์ในภาควิชาที่ทาโบลเรียนกว่าร้อยฉบับเพื่อสอบถามว่า ทาโบลเรียนจบที่นี่จริงเหรอ? แถมยังคุกคามครอบครัวของทาโบลจนได้รับความเดือดร้อน ยัดเงินรุ่นพี่ร่วมสถาบันที่สแตนฟอร์ดของทาโบลเพื่อให้เซ็นยินยอมว่าไม่เคยเห็นทาโบลที่มหาวิทยาลัย ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ = ="

        แม้ทาโบลจะนำทรานสคริปต์ออกมาโชว์ต่อสื่อ รวมไปถึงอาจารย์ที่สแตนฟอร์ดก็ยืนยันว่าทาโบลเคยเป็นนักศึกษาที่นี่จริงๆ แต่พวกแอนตี้แฟนก็หาว่าพวกเขาสร้างหลักฐานปลอมๆ ขึ้นมา(ซะงั้น) สุดท้ายทาโบลก็ไม่ทนอีกต่อไป เดินหน้าฟ้องกลุ่มแอนตี้แฟนดังกล่าว จนสุดท้ายคดีก็สิ้นสุดในปี 2012 และทาโบลก็ชนะคดีค่ะ นี่แหละค่ะ ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ
ที่มา:​ dek-d.com
 
สงวนลิขสิทธิ์ © ข่าว ไทย