พายุฝนถล่มกรุง อ่วม ซัดต้นไม้-เสาไฟล้ม 14 ต้น ทับรถเสียหาย 22 คัน ต้องปิดจราจรถนนวิทยุ-รถ ติดหนึบอลหม่าน อีกจุดพายุกระหน่ำต้นไม้หักพาดรางรถไฟฟ้าบีทีเอส ทำให้ต้องหยุดเดินรถนาน 3 ช.ม. ผู้โดยสารโกลาหล-บางสถานีต่อคิวยาวล้น จนท.เร่งเคลียร์จนเรียบร้อย ขณะที่ ถนนรัชดาฯ-หน้าวัดเสมียนนารี-ถนนงามวงศ์ วาน-แยกเตาปูนมีน้ำท่วมขัง ภาคเหนือจับตาอีก 19 ปี ไทยเสี่ยงเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ ผอ.สำนักงานธรณีเขต 1 เผยจากข้อมูลดินไหว ในไทยพบเกิดครั้งใหญ่เมื่อปี 2537 ต่อมาเกิดอีกครั้งในปี 2557 คาดในปี 2577 ไทยจะเสี่ยงเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ จับตา 3 รอยเลื่อนภาคเหนือ ทั้งรอยเลื่อนเถิน รอยเลื่อนพะเยา รอยเลื่อนท่าสี
จับตา 19 ปีไทยเสี่ยงดินไหวใหญ่
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. นายทินกร ทาทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 1 (ลำปาง) รับผิดชอบพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ กล่าวว่า จากข้อมูลการเกิดแผ่นดินไหวของประเทศไทยในปี 2526 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.9 แม็กนิจูด ที่จ.กาญจนบุรี ต่อมาปี 2537 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.6 แม็กนิจูด ที่อ.พาน จ.เชียงราย และล่าสุดเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2557 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 แม็กนิจูด ที่อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ถือเป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย จากการคาดการณ์ระยะเวลาการเกิดแผ่นดินไหวที่จ.เชียงราย จำนวน 2 ครั้ง ห่างกันประมาณ 20 ปี หากเป็น รอบของการเกิดแผ่นดินไหวจริง จึงคาดว่าในอีก 20 ปี ข้างหน้า หรือในปี 2577 ประเทศไทยจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่อีก
นายทินกรกล่าวต่อว่า ประเทศไทยมีรอยเลื่อนที่มีพลังอยู่ทั้งหมด 14 รอยเลื่อน แบ่งเป็นภาคเหนือ 10 รอยเลื่อน ภาคตะวันตก 2 รอยเลื่อน และภาคใต้ 2 รอยเลื่อน ซึ่งในพื้นที่ภาคเหนือมีการเกิดแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง โดยมีขนาดต่ำกว่า 3 แม็กนิจูด ประกอบ กับภาคเหนือมีจำนวนรอยเลื่อนมากที่สุดในประเทศไทย จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะรอยเลื่อนเถิน ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของ จ.ลำปาง และแตกแขนงพาดมายังฝั่งทิศเหนือ รวมถึงรอยเลื่อนพะเยา พาดผ่าน อ.งาว จ.ลำปาง และอ.เมือง ต.พะเยา และรอยเลื่อนท่าสี พาดผ่าน อ.เมือง อ.แม่เมาะ และอ.งาว จ.ลำปาง
นายทินกรกล่าวต่อว่า ปัจจุบันยังไม่มีเครื่องมือใดที่จะเตือนแผ่นดินไหวล่วงหน้าได้ จึงเป็นการคาดการณ์เท่านั้น ซึ่งเรายังไม่รู้ว่าจะเกิดที่ใดบ้าง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้อง เตรียมความพร้อมในการรับมือแผ่นดินไหว โดยเฉพาะพื้นที่ที่เคยเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งปกติกรมทรัพยากรธรณีจะเฝ้าระวังแผ่นดินไหวให้ประชาชนตลอดทั้งปีอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้จะจับตา ดูเป็นพิเศษ เนื่องจากประชาชนห่วงเรื่องแผ่นดินไหวใหญ่ที่ประเทศเนปาล แต่ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย เพราะอยู่ห่างจาก จ.เชียงราย ประมาณ 1,700 ก.ม. และห่าง จากกรุงเทพฯ ประมาณ 2,300 ก.ม.
พายุฝนถล่มกรุงอ่วมหนัก
สำหรับสถานการณ์พายุฝนพัดถล่มและลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ โดยบริเวณใจกลางเมืองย่านสยาม เกิดฝนตกหนักและลมแรง ทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ยืนต้นตาย อยู่ริมรั้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) หักโค่นแล้วลำต้นพาดรางรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีลม ทำให้ต้องประกาศหยุดเดินรถเป็นการชั่วคราว เพื่อรอการแก้ไข เบื้องต้นเจ้าหน้าที่บีทีเอสได้ถ่ายผู้โดยสารออกจากสถานีสยาม ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ปิดการจราจรถนนพระราม 1 มุ่งหน้าแยกเฉลิมเผ่า เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและรถที่สัญจรผ่านไปมา เนื่องจากเกรงต้นไม้อาจหักร่วงลงมาทับชาวบ้านหรือรถที่ขับผ่านไปมา
ต่อมาเจ้าหน้าที่จากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร นำรถกระเช้าและเลื่อยขนาดใหญ่ มาตัดกิ่งไม้ที่โค่นล้มพาดรางรถไฟฟ้าบีทีเอส ขณะที่เจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้านครหลวงได้ตัดกระแสไฟ เพื่อความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก จนล่าสุด สามารถเปิดการจราจรได้ตามปกติ
ส่วนบริเวณสถานีรถไฟฟ้าสยาม ราชดำริและสีลมค่อนข้างโกลาหล เนื่องจากมีประชาชน มาใช้บริการรถไฟฟ้าจำนวนมาก เพราะเป็นช่วงเวลาเลิกงานพอดี จนมีผู้โดยสารที่มาใช้บริการต่อคิวยาวล้นออกมาด้านนอก นอกจากนี้ ยังมีประชาชนส่วนใหญ่ที่อดทนรอไม่ไหว ต้องเปลี่ยนไปใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินแทน
บีทีเอสวุ่น-ต้นไม้ล้มพาดราง
ด้านนายอาณัติ อาภาภิรม ประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชน กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บีทีเอส กล่าวว่า ได้รับ รายงานเมื่อเวลา 15.14 น. มีต้นไม้ยืนต้นตายขนาดใหญ่ล้มบริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขวางรางรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีลม ก่อนถึงสถานีสยาม ทำให้รถไฟฟ้าจากสถานีราชดำริไม่สามารถเข้าสู่สถานีสยาม และสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ไม่สามารถจอดที่สถานีสยามได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามบีทีเอสได้สับเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถ โดยจัดให้รถไฟฟ้าที่มาจากสถานีสนามกีฬาแห่งชาติวิ่งขึ้นรางชั้น 2 ผ่านสถานีสยามไปยังสถานีราชดำริ ดังนั้นประชาชนที่จะเดินทางไปยังเส้นทางบางหว้า จะต้องเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีราชดำริ ส่วน ผู้ที่มาจากเส้นทางบางหว้า จะไปยังสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ต้องเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีราชดำริเช่นกัน โดยขณะนี้ บีทีเอสส่งเครื่องมือและเจ้าหน้าที่เข้าแก้ไขร่วมกับเจ้าหน้าที่กทม. ใช้เวลากว่า 1 ช.ม. จึงจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้ อย่างไรก็ตามได้รับรายงานว่ามีผู้โดยสารติดค้างอยู่ที่สถานีราชดำริจำนวนมาก เนื่องจากต้องใช้เวลารอขบวนรถ
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา ผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชน กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส เปิดเผยว่า เส้นทางสุขุมวิทไม่มีปัญหาอะไรยังเดินรถได้ตามปกติ แต่เส้นสีลมวิ่งได้เพียงรางเดียว เฉพาะรางด้านบนเท่านั้น ส่วนรางล่างถูกต้นไม้ ทับ กำลังเร่งนำรถยกเข้าไปยกต้นไม้ออกจากรางให้แล้วเสร็จ เพราะเกรงจะเกิดปัญหากับ ผู้โดยสารตกค้างจำนวนมากที่สถานีสยามและราชดำริ เนื่องจากเป็นเวลาเลิกงาน ซึ่งจะมีประชาชนเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่เคลียร์ ต้นไม้ที่ล้มพาดรางรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีลมเป็นที่เรียบร้อย จากนั้นเจ้าหน้าที่บีทีเอสได้เร่งตรวจสอบระบบการทำงานของรถไฟฟ้าและราง พบไม่ได้รับความเสียหาย จึงเปิดให้ประชาชนใช้บริการได้ตามปกติในเวลา 18.00 น.
ซัดเสาไฟล้มทับรถยับ 22 คัน
ส่วนถนนสารสินตัดถนนวิทยุ มุ่งหน้าหลัง สวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน ใกล้กับสวนลุม พินี เกิดพายุฝนถล่มและลมกระโชกแรง ส่งผลให้ต้นก้ามปูขนาดใหญ่ล้ม 2 ต้น และล้มทับเสาไฟฟ้าข้างทางล้มเป็นทางยาวอีก 14 ต้น
โดยร.ต.ท.สุรศักดิ์ สังข์แก้ว พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี รายงานว่า เกิดเหตุลมพายุพัดถล่ม ทำให้เสาไฟฟ้าและต้นไม้ใหญ่หักโค่นล้มทับรถยนต์ที่กำลังสัญจรอยู่บนท้องถนนกว่า 22 คัน เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เพื่อให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พร้อมเคลื่อนย้ายต้นไม้และเสาไฟฟ้าที่ล้มออกจากถนน โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ค่อนข้างวุ่นวาย ทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าว ติดขัดเป็นวงกว้าง แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
พิษฝนกระหน่ำ-จมกรุง
ขณะที่นายอดิศักดิ์ ขันตี รองปลัดกรุงเทพ มหานคร กล่าวว่า ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพ มหานคร รายงานสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่กทม. ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ได้มีลมกระโชกแรงและมีฝนอ่อน-ปานกลาง ก่อตัวในพื้นที่ 2 กลุ่ม ได้แก่ 1.รอยต่อเขตลาดพร้าว บางเขน ดอนเมือง บางส่วนเขตสายไหม บางเขน หลักสี่ จตุจักร ลาดพร้าว บึงกุ่ม ดินแดง ห้วยขวาง วังทองหลาง พระโขนง คลองเตย วัฒนา สวนหลวง สาทร ปทุมวัน ราชเทวี บางรัก และ 2.เขตราษฎร์บูรณะ ทุ่งครุ จอม ทอง บางส่วนเขตภาษีเจริญ ตลิ่งชัน ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังรอระบาย 10-20 ซ.ม. บริเวณถนนรัชดาภิเษก หน้าศาลาอาญา บริเวณหน้าวัดเสมียนนารี ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนงามวงศ์ วาน ปากซอยชินเขต และหน้าตลาดพงษ์เพชร บริเวณแยกเตาปูน
นายอดิศักดิ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ได้รับรายงานต้นไม้ยืนต้นตายขนาดใหญ่ ล้มบริเวณถนนวิทยุและบริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งผลให้รถไฟฟ้าไม่สามารถเดินรถได้ ขณะที่การจราจรถนนวิทยุและถนนพระราม 1 ติดขัดอย่างหนัก ซึ่งเจ้าหน้าที่กทม.อยู่ระหว่างดำเนินการเคลื่อนย้าย ส่วนบริเวณถนนสารสิน เกิดเสาไฟฟ้าล้มทับรถยนต์เสียหาย ทำให้ต้องปิดการจราจรบริเวณดังกล่าว และรถติดขัดอย่างหนักเช่นกัน ซึ่งกทม.เร่งประสานไปยังเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เพื่อเร่งดำเนินการแก้ไข
นายอดิศักดิ์กล่าวต่อว่า ขณะที่บริเวณถนนกาญจนาภิเษก เกิดป้ายโฆษณาขนาดใหญ่โค่นล้มลง ทำให้มีเศษป้ายโฆษณาตกกระจาย อยู่บนผิวการจราจรจำนวนมาก เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างจัดเก็บและแก้ไข ส่วนถนนเทศบาลสงเคราะห์ เขตจตุจักร มีต้นไม้ล้ม แต่ไม่มีรายงานความเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างแก้ไขเช่นกัน
