BREAKING NEWS

กลุ่มวัยรุ่นรุมตื้บแท็กซี่อ่วม! อ้างเป็นลูกนายพล สาวในแก๊งบอก ตร.ประโยคนี้ทำเอาอึ้งจริงๆ ไม่รู้ใหญ่มาจากไหน

กลุ่มวัยรุ่นรุมตื้บแท็กซี่อ่วม! อ้างเป็นลูกนายพล สาวในแก๊งบอก ตร.ประโยคนี้ทำเอาอึ้งจริงๆ ไม่รู้ใหญ่มาจากไหน

สำนักข่าว บิ๊กซ่า มีรายงาน เมื่อเวลา 02.30 น.วันที่ 28 ก.ย.2558 ตร.ได้รับแจ้งเหตุโชเฟอร์ขับรถแท็กซี่ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายร่างกายได้รับ บาดเจ็บสาหัส พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าข่มขู่จำนวนหลายนัด บริเวณปากทางเข้าอาร์ซีเอฝั่งแยกจตุรทิศ ถนนจตุรทิศ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ

 ที่เกิดเหตุพบเพียงกองเลือด และปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่บนพื้นถนนจำนวน 7 ปลอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลราชวิถี ทราบชื่อคือ นายธานินทร์ พรำนัก อายุ 31 ปี โชเฟอร์รถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีเขียวเหลือง หมายเลขทะเบียน มช-8125 กทม. ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ใบหน้าบวมปูดจนตาปิด ปากแตก ตามร่างกายมีรอยฟกช้ำหลายแห่ง แพทย์ต้องนำตัวเข้ารักษาในห้องไอซียู
 
 
 
 
 
 
 
 

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุได้ขับรถตู้ยี่ห้อโฟล์คสวาเกน คาราเวล สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ฮข-8514 กทม. หลบหนี เจ้าหน้าที่จึงวิทยุเพื่อทำการสกัดจับรถตู้คันดังกล่าว จนกระทั่งเวลา 04.00 น. เจ้าหน้าที่พบรถตู้คันดังกล่าวขับย้อนกลับมาที่บริเวณด้านหน้าอาร์ซีเอ อีกครั้งเจ้าหน้าที่สายตรวจและกำลังฝ่ายสืบสวน สน.มักกะสัน จึงสามารถจับรถตู้คันดังกล่าวเอาไว้ได้ที่บริเวณด้านหน้าร้านแฟมิลี่มาร์ท ถนนเพชรอุทัย แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง

 โดยภายในรถตู้มีนายบุลเสฏฐ์ วุฒิวิญญูชน อายุ 27 ปี อยู่แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม และนายชุติรัตน์ ถนอมสิงห์ อายุ 27 ปี อยู่แขวงนครไชยศรี เขตดุสิต

 จากการตรวจค้นภายในรถตู้คันดังกล่าว พบอาวุธปืนสั้นแบบออโตเมติก ขนาด 9 ม.ม.ยี่ห้อกล็อก 26 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนขนาดเดียวกันจำนวน 8 นัด และซองบรรจุกระสุน 1 ซองซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายสีน้ำตาล และอาวุธปืนสั้นแบบออโตเมติก ขนาด .45 ยี่ห้อกล็อก 30 พร้อมกระสุนขนาดเดียวกัน จำนวน 18 นัด และซองบรรจุกระสุน 2 ซอง ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายสีดำ เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวทั้งสองคนมาสอบปากคำที่ สน.มักกะสัน

 สอบสวนนายสุรชัย ฝอยทอง อายุ 32 ปี เพื่อนผู้ได้รับบาดเจ็บ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกับนายธานินทร์ พร้อมเพื่อนโชเฟอร์แท็กซี่อีกหลายคน มาจอดรถรอผู้โดยสารอยู่บริเวณปากทางเข้าอาร์ซีเอ อยู่ตามปกติ จนกระทั่งรู้สึกหิวน้ำ ก็เลยชวนนายธานินทร์ ไปซื้อน้ำดื่มใกล้ๆ กัน ซึ่งขณะนั้นก็มีกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีขับรถตู้ยี่ห้อโฟล์คสวาเกน คาราเวล สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ฮข-8514 กทม. มาจอดบริเวณปากทางเข้าอาร์ซีเอ โดยมีวัยรุ่น 3 คน เป็นหญิง 2 คน และชาย 1 คน ลงมาซื้อน้ำดื่มที่รถเข็นอยู่ เมื่อตนกับนายธานินทร์เดินไปถึงรถเข็นขายน้ำดื่ม ตนก็หันไปบอกให้นายธานินทร์เลี้ยงน้ำดื่มตน เนื่องจากเพิ่งได้เงินจากการไปส่งผู้โดยสารมา

 นายสุรชัย ให้การอีกว่า ระหว่างที่ตนหันไปคุยกับนายธานินทร์เสร็จ วัยรุ่นชายที่ยืนซื้อน้ำอยู่ใกล้ๆ กัน ก็หันมาผลักอกตน แล้วก็พูดว่า “เฮ้ย มึงอะไรเนี่ย” ตนก็หันไปบอกชายคนดังกล่าวว่า “ผมไม่ได้คุยกับพี่นะครับ ผมคุยกับเพื่อนผม” พอพูดจบเท่านั้น ชายคนดังกล่าวก็ตบหน้านายธานินทร์ ไป 1 ครั้ง ทำให้นายธานินทร์ชกสวนกลับไป 1 หมัดทันที หลังจากนั้น กลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในรถตู้คันดังกล่าวอีกประมาณ 5 คน ก็พากันกรูลงมาจากรถตู้

 ก่อนจะตรงเข้ามาลากนายธานินทร์ไปรุมกระทืบจนสะบักสะบอม แม้นายธานินทร์จะยกมือไหว้ขอชีวิตก็ยังไม่หยุด ขนาดถูกเตะหน้าจนสลบไปแล้วก็ยังถูกรุมกระทืบต่อ หลังจากนั้น มีชายวัยรุ่นหนึ่งในนั้นก็ชักอาวุธปืนขึ้นมาจ่อหัวนายธานินทร์ แต่เพื่อนๆ เข้ามาห้ามไว้ ก่อนที่ชายดังกล่าวจะใช้อาวุธปืนยิงขู่ขึ้นฟ้า ประมาณ 7 นัด ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือ จนกระทั่งทั้งหมดรุมกระทืบเพื่อนตนจนหนำใจแล้วก็พากันขึ้นรถตู้หลบหนีไป ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยนำตัวนายธานินทร์ส่งโรงพยาบาล

 ด้านนายหนุ่ม (นามสมมติ) โชเฟอร์แท็กซี่ที่อยู่ในเหตุการณ์อีก 1 ราย กล่าวว่า จังหวะที่กลุ่มวัยรุ่นกำลังรุมกระทืบนายธานินทร์อยู่นั้น พวกตนได้ยินกลุ่มวัยรุ่นพูดด้วยว่า “ไปเรียกพวกมึงมาเลย กูไม่กลัว พ่อกูใหญ่ ใครมีปัญหาเจอกูที่สืบ 4” ซึ่งช่วงนั้นตนก็หันไปบอกผู้หญิงของกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุดังกล่าวว่า ให้เข้าไปช่วยห้ามเพื่อนหน่อย เพราะนายธานินทร์ถูกกระทืบจนปางตายแล้ว แต่ผู้หญิงของกลุ่มวัยรุ่นบอกตนว่า “ห้ามทำไม พวกเขาไม่ผิด เรียกตำรวจมาเลย ตำรวจที่ไหนก็ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก”

 ร.ต.ท.พรปรีชา ไชยกาล พนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน เจ้าของคดี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องแยกออกเป็น 2 เหตุการณ์ โดยเหตุการณ์เมื่อช่วง 04.00 น. เป็นเหตุซึ่งหน้า ที่เจ้าหน้าที่สกัดจับรถตู้เอาไว้ได้พร้อมอาวุธปืนจำนวน 2 กระบอก และกระสุนปืนอีกหลายนัด ซึ่งจากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การว่า อาวุธปืนทั้ง 2 กระบอก มีทะเบียนของตัวเอง 1 กระบอก และของคนอื่นอีก 1 กระบอก ซึ่งหลังจากนี้จะทำการตรวจสอบทะเบียนอีกครั้ง

 ส่วนเหตุการณ์รุมทำร้ายร่างกายที่บริเวณหน้าทางเข้าอาร์ซีเอ ก่อนหน้านั้นไม่ใช้เหตุการณ์ซึ่งหน้า ทางพนักงานสอบสวน จะทำการสอบปากคำญาติและเพื่อน รวมทั้งตัวนายธานินทร์ผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างละเอียดอีกครั้งว่าผู้ก่อเหตุทั้งหมดมีกี่คน พร้อมทั้งให้ชี้ตัวยืนยัน นอกจากนี้ยังต้องรอผลการตรวจร่างกายจากแพทย์ผู้ทำการรักษาว่า ได้รับบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน หากไม่สาหัสก็จะแจ้งข้อหาทำร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ แต่หากแพทย์ลงความเห็นว่าได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็จะแจ้งข้อหาทำร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัสต่อไป

 เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต , พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

 ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะเจ้าหน้าที่นำตัวมาสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนพยายามก้มหน้าหลบช่างภาพและผู้สื่อข่าวตลอดเวลา โดยจากการตรวจสอบพบว่า นายบุลเสฏฐ์ มีชื่อเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ ส.ต.ต. สังกัด สภ.กระทุ่มแบน อีกด้วย โดยพบวัยรุ่นในกลุ่มมีนามสกุลตรงกับ นายพลคนหนึ่งในกองบัญชาการกองทัพไทยด้วย

ที่มา : innnews, khaosod
 
สงวนลิขสิทธิ์ © ข่าว ไทย