กองทัพเรือสั่งตัดน้ำ-ตัดไฟมูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานในพระราชวังเดิมแล้ว หลังเตือนจ่ายย้อนหลัง5เดือนกว่า 3 หมื่น จนท.ทำงานกลางความร้อนและมืด คาดปมขัดแย้งเรื่องทุบกำแพง
วันที่ 12 มิ.ย.ความคืบหน้ากรณีกระแสข่าวว่ากองทัพเรือมีหนังสือถึงมูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานในพระราชวังเดิม เพื่อเรียกเก็บค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคหรือค่าน้ำค่าไฟประจำเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2558 จำนวน 34,984 บาท โดยระบุให้ชำระภายในวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้หากไม่ชำระตามกำหนด จะดำเนินการระงับการจ่ายน้ำและไฟ
ล่าสุดวานนี้(11 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำการมูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานในพระราชวังเดิม ซึ่งตั้งอยู่ภายในตำหนักเก๋ง ที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ถูกตัดน้ำและไฟฟ้าแล้ว
โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิรายหนึ่งเปิดเผยว่า ในช่วงเช้าก่อนเวลา 08.30 น. ยังสามารถใช้ไฟฟ้าและน้ำได้ตามปกติ แต่หลังช่วงเวลาดังกล่าวก็ไม่สามารถใช้การได้ เจ้าหน้าที่มีราว 4-5 ราย ยังคงทำงานตามปกติ แต่ต้องนั่งทำงานภายใต้อากาศร้อนและค่อนข้างมืด ไม่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้ ส่วนโทรศัพท์ใช้ได้เพียง 1 สาย จึงมีอุปสรรคด้านการติดต่อประสานงานเป็นอย่างมาก
สำหรับผลกระทบต่อการเข้าชมนั้น เจ้าหน้าที่รายเดิมกล่าวว่า แม้ถูกตัดน้ำ-ไฟ แต่ไม่มีการยกเลิกคณะผู้เยี่ยมชมที่นัดหมายไว้ล่วงหน้า ซึ่งในวันนี้(12 มิ.ย.) จะมีคณะจากโรงเรียนนายร้อย จปร. 75 คน เข้าชม โดยอาจมีปัญหาเรื่องอากาศร้อนและอากาศถ่ายเทไม่สะดวกโดยเฉพาะชั้นล่าง รวมถึงเรื่องแสงสว่างด้วย
ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวได้เปิดเผยว่า ทางมูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานในพระราชวังเดิม ไม่เคยต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟ เนื่องจากได้รับความอนุเคราะห์จากกองทัพเรือมาโดยตลอด กระทั่งเมื่อปลายปี 2557 เกิดประเด็นเรื่องการปรับภูมิทัศน์ภายในพื้นที่กองทัพเรือ มีแผนทุบกำแพงพระราชวังเดิมฝั่งทิศเหนือ ใกล้กองบัญชาการกองทัพเรือ เพื่อเปิดเป็นลานสวนสนาม ทางมูลนิธิจึงได้หนังสือสอบถามไปยังกรมศิลปากร เพื่อสอบถามว่าสามารถทุบกำแพงได้จริงหรือไม่ เพราะพื้นที่ภายในพระราชวังเดิม ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย.2492 ต่อมากรมศิลปากรจึงคัดค้านการทุบกำแพง
และมีคำสั่งให้กรมช่างกองทัพเรือแยกมิเตอร์น้ำ และไฟฟ้าของมูลนิธิ โดยมีหนังสือให้จ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟ รวมถึงมีการเตือนว่า จะย้ายทหารชั้นผู้น้อยที่เคยได้รับอนุมัติให้รับการฝึกหัดเป็นวิทยากรนำชมโบราณสถาน และดูแลความปลอดภัยของโบราณวัตถุในพระราชวังเดิม รวมถึงจะเรียกคืนรถยนต์และพลขับที่ช่วยงานมูลนิธิกลับคืน
นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังอ้างถึงจดหมายชี้แจงหนี้สาธารณูปโภคลงนามโดย พล.ร.อ.ประเจตน์ ศิริเดช ประธานกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานในพระราชวังเดิม ชี้แจงต่อเลขานุการกองทัพเรือว่า ทางมูลนิธิมีความจำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคจากกองทัพเรือ เพราะรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝากของมูลนิธิไม่เพียงพอกับค่าสาธารณูปโภค ซึ่งมูลนิธิเคยชี้แจงตั้งแต่การประชุมสามัญประจำปี 2548 หรือเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และไม่เคยถูกเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเลย ดังนั้น มูลนิธิจึงไม่สามารถชำระค่าใช้จ่ายได้ จนกว่าจะนำเรื่องดังกล่าวผ่านมติที่ประชุมสามัญประจำปี 2558 ก่อน
ที่มา: mthai.com