
ดูภาพแล้วมา..ดูกันว่าถ้า มดลูกอักเสบ! น่ากลัวไหม
มดลูกอักเสบคืออะไร
มดลูกอักเสบ โรคที่ได้ยินชื่อบ่อย ๆ จนคุ้นหู มักเกิดขึ้นในผู้หญิงอายุระหว่าง 15-45 ปี เกิดจากการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน (Pelvic Inflammatory Desease) คือการอักเสบแบบเฉียบพลันในบริเวณมดลูก และอาจแพร่กระจายไปสู่บริเวณช่องท้องได้ โรคนี้อาจมีภาวะแทรกซ้อนได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี ซึ่งจะขึ้นอยู่กับเป็นการติดเชื้อในบริเวณใด
- ถ้าติดเชื้อและเกิดการอักเสบบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูก ก็จะเรียกว่า เยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ - ถ้าติดเชื้อและเกิดการอักเสบที่ปีกมดลูก จะเรียกว่าปีกมดลูกอักเสบ (Salpingitis)
จะป้องกันอย่างไรดี
1. งดการร่วมเพศกับผู้ที่มีความเสี่ยง
2. หลังการคลอดบุตร ขูดมดลูก หรือแท้งบุตร ควรงดการร่วมเพศ หรือสวนล้างช่องคลอดเป็นเวลา 6 อาทิตย์
3. ถ้าสงสัยว่าติดเชื้อหนองใน ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีก่อนที่จะลุกลามไปมากขึ้นจนกลายเป็นปีกมดลูกอักเสบ
4. ไม่ควรสวนล้างช่องคลอดบ่อย ๆ
รักษาอย่างไร
ถ้าดูตามอาการแล้วสงสัยว่าอาจจะเป็นมดลูกอักเสบ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อป้องกันการลุกลามไปส่วนอื่น ถ้าถึงขั้นมีไข้สูง และกดแล้วเจ็บ หรือปวดบริเวณท้องน้อย ควรรีบมาโรงพยาบาลทันที โดยแพทย์จะหาสาเหตุจากการตรวจ
1. ปัสสาวะ
2. เม็ดเลือดขาว
3. นำหนองในช่องคลอดไปตรวจหาเชื้อ หรืออัลตราซาวด์
4. ผู้ป่วยอาจต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งจะต้องดูตามอาการของผู้ป่วย เช่น การให้ยาแก้ปวด การลดไข้ การให้น้ำเกลือ และอาจต้องให้เลือดถ้าผู้ป่วยมีอาการซีด และต้องให้ยาปฏิชีวนะตามเชื้อที่ก่อให้เกิดโรค
มดลูกอักเสบคืออะไร
มดลูกอักเสบ โรคที่ได้ยินชื่อบ่อย ๆ จนคุ้นหู มักเกิดขึ้นในผู้หญิงอายุระหว่าง 15-45 ปี เกิดจากการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน (Pelvic Inflammatory Desease) คือการอักเสบแบบเฉียบพลันในบริเวณมดลูก และอาจแพร่กระจายไปสู่บริเวณช่องท้องได้ โรคนี้อาจมีภาวะแทรกซ้อนได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี ซึ่งจะขึ้นอยู่กับเป็นการติดเชื้อในบริเวณใด
- ถ้าติดเชื้อและเกิดการอักเสบบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูก ก็จะเรียกว่า เยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ - ถ้าติดเชื้อและเกิดการอักเสบที่ปีกมดลูก จะเรียกว่าปีกมดลูกอักเสบ (Salpingitis)
จะป้องกันอย่างไรดี
1. งดการร่วมเพศกับผู้ที่มีความเสี่ยง
2. หลังการคลอดบุตร ขูดมดลูก หรือแท้งบุตร ควรงดการร่วมเพศ หรือสวนล้างช่องคลอดเป็นเวลา 6 อาทิตย์
3. ถ้าสงสัยว่าติดเชื้อหนองใน ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีก่อนที่จะลุกลามไปมากขึ้นจนกลายเป็นปีกมดลูกอักเสบ
4. ไม่ควรสวนล้างช่องคลอดบ่อย ๆ
รักษาอย่างไร
ถ้าดูตามอาการแล้วสงสัยว่าอาจจะเป็นมดลูกอักเสบ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อป้องกันการลุกลามไปส่วนอื่น ถ้าถึงขั้นมีไข้สูง และกดแล้วเจ็บ หรือปวดบริเวณท้องน้อย ควรรีบมาโรงพยาบาลทันที โดยแพทย์จะหาสาเหตุจากการตรวจ
1. ปัสสาวะ
2. เม็ดเลือดขาว
3. นำหนองในช่องคลอดไปตรวจหาเชื้อ หรืออัลตราซาวด์
4. ผู้ป่วยอาจต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งจะต้องดูตามอาการของผู้ป่วย เช่น การให้ยาแก้ปวด การลดไข้ การให้น้ำเกลือ และอาจต้องให้เลือดถ้าผู้ป่วยมีอาการซีด และต้องให้ยาปฏิชีวนะตามเชื้อที่ก่อให้เกิดโรค