เมื่อวันที่ 28 เม.ย. พ.ต.ท.บุญเทียน พุดสีเสน รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ มอบหมายให้ พ.ต.ต.อุดร หนูคำ สวป.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ร.ต.ท.บุญมี กรุงแสนเมือง รอง สวป.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุด ปส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เข้าจับกุม น.ส.กัลยา หรือ กูด ดลโสภณ อายุ 44 ปี อยู่ ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ และ นางวิไล หรือ ไหวดี อายุ 45 ปี อยู่ ต.อาจสามารถ อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นพยาบาลอยู่แผนกห้องผ่าตัดโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมของกลางยาบ้า 2,300 เม็ด ปืนพกสั้น ชนิดลูกโม่ดัดแปลง ขนาด .22 มม. จำนวน 1 กระบอก กระสุน 9 นัด บัญชีธนาคารที่มีเงินหมุนเวียนเกือบ 2 แสนบาท ซึ่งจับกุมได้ที่บ้าน ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า ยาบ้าดังกล่าวซื้อมาจากนายหวัง ราษฎร สปป.ลาว เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา และได้นำไปขายให้กับลูกค้าที่เป็นวัยรุ่น คนทำงาน ส่วนเงินที่ได้ก็นำไปใช้จ่าย เที่ยว และเล่นการพนัน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดรถยนต์ ฮอนด้า HR-V สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กฉ 1289 กาฬสินธุ์ มูลค่า 1,050,000 บาท ที่ได้มีการซื้อด้วยเงินสด เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา เพื่อทำการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
พ.ต.ต.อุดร กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่า น.ส.กัลยา และ นางวิไล มีพฤติการณ์จำหน่ายยาบ้าให้กับวัยรุ่น คนทำงานในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จึงร่วมวางแผนกับชุด ปส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กระทั่งเมื่อเวลา 00.40 น. วันนี้ ได้ให้สายลับล่อซื้อยาบ้าจาก น.ส.กัลยา จำนวน 200 เม็ด เป็นเงิน 20,000 บาท โดยนัดส่งมอบยาบ้าที่หน้าบ้าน ต.กาฬสินธุ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์
เมื่อมีการส่งมอบยาบ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตนพร้อมเข้าจับกุมตรวจค้น โดย น.ส.กัลยา บอกว่า นางวิไล อยู่ภายในห้องนอน จึงเข้าตรวจค้นพบยาบ้าอยู่ในถุงพลาสติก สีฟ้า จำนวน 9 ถุง จำนวน 1,800 เม็ด อยู่ในกล่องนมนี่ห้อหนึ่ง ซ่อนอยู่ใต้ที่นอน ยาบ้า 300 เม็ด อยู่ในกระเป๋าถือสีน้ำตาลวางอยู่ใต้ที่นอน และยาบ้าที่ล่อซื้อ 200 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมด 2,300 เม็ด ส่วนอาวุธปืนพกสั้นพบอยู่ในกระเป๋าอยู่บนหัวเตียง
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับทั้งสองว่าร่วมกันจำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม น.ส.กัลยา ว่ามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน พร้อมส่งตัวผู้ต้องหาทั้งสองให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มา: khaosod
