BREAKING NEWS

จ่อยิง 2 ตายายดับชิงทรัพย์-ตร.คาดฝีมือญาติที่มาขอพักด้วยสงกรานต์

จ่อยิง 2 ตายายดับชิงทรัพย์-ตร.คาดฝีมือญาติที่มาขอพักด้วยสงกรานต์

สองผัวเมียถูกคนร้ายซึ่งคาดว่าเป็นญาติกันที่ขอมาพักอาศัยด้วยในช่วงสงกรานค์ใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงจนเสียชีวิต ก่อนที่จะชิงเอาเงินสดร่วม 5 หมื่นบาท และปืน 2 กระบอกของผู้ตายหลบหนีไป คาดเห็นผู้ตายชอบพกเงินสดหลายหมื่นบาทติดตัว

เมื่อเวลา 06.50 น.วันที่ 13 เม.ย. ร.ต.ท.พงษ์วุฒิ วุฒิพงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่ข้างบ้านเลขที่ 77 หมู่ 5 หลังเกษตรศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีวิชัย ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งใหญ่ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมโชค จันทรมณี ผกก.พ.ต.อ.ประจักษ์ รอดการทุกข์ พงส.ผทค.พ.ต.ท.ชัยภัทร ศรีเรือง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สุทน ช้างรบ สว.สส. พ.ต.ต.ไพโรจน์ เมืองสุวรรณ สวป. ร.ต.อ.เหนือโชค คงสงค์ จนท.พิสูจน์หลักฐาน มูลนิธิใต้เต็กตึ๊ง พญ.สุธีรา ยมมา แพทย์เวร รพ.ทุ่งใหญ่ และชุดสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบ
จุดเกิดเหตุอยู่ตรงบริเวณแคร่ไม้ไผ่สำหรับนั่งชำแหละเนื้อสุกร มีสุกรที่ถูกเชือดแล้ว 1 ตัว วางกองอยู่พร้อมกับเครื่องในหมูจำนวนหนึ่ง เพื่อรอส่งให้ลูกค้า ที่พื้นดินติดกับแคร่ไม้ไผ่พบศพนายวรรณ พรหมเวช อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 5 ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพมีรอยถูกยิงด้วยปืนลูกซองยาวเข้าที่หน้าท้องจนเป็นรูโบ๋ นอนหงายหน้าจมกองเลือดอยู่ในชุดนุ่งผ้าขาวม้าสีแดง ไม่ใส่เสื้อ ตามร่างกายมีมดคันไฟตัวเล็กขึ้นมาไต่ตอมกัดกินเนื้อตรงบาดแผลเป็นจำนวนมาก ใกล้กันพบศพนางวันเพ็ญ พรหมเวช อายุ 60 ปี เมียของนายวรรณ สภาพศพมีรอยถูกยิงด้วยปืนชนิดเดียวกันเข้าที่ชายโครงซ้ายกระสุนเข้าเป็นกระจุกนับรูกระสุนได้ 7 รู นอนหงายหน้าจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ในชุดนุ่งผ้าถุงลายดอกสีเทา ใส่เสื้อยืดสีแดง ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังพบรูกระสุนปืนลูกซองที่ยิงไปโดนโอ่งใส่น้ำขนาดใหญ่ห่างจากผู้ตายไปประมาณ 5 เมตร จำนวน 2 รู พบปลอกกระสุนปืนลูกซองยาว 2 ปลอก และเศษหัวกระสุนปืนลูกซองจำนวนหนึ่ง จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนนายปัญญา พรหมเวช อายุ 42 ปี ลูกชายคนโตของผู้ตายให้การว่า บิดามีอาชีพรับซื้อไม้ยางพารา เลี้ยงวัวชนไว้เดิมพันอยู่ 3 ตัวราคาตัวละหลายหมื่นบาทนอกจากนี้ยังได้รับจ้างชำแหละสุกรเป็นตัวๆ ให้กับลูกค้าในพื้นที่ ก่อนเกิดเหตุสองวันได้มีนายเลียด เพชรอาวุธ อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นญาติลูกพี่ลูกน้องกันกับนางวันเพ็ญ แม่ของตนได้มาขอพักอาศัยอยู่ด้วย ทางครอบครัวจึงได้ให้ที่พักกินอยู่อย่างดีภายในบ้าน แต่หลังจากนายเลียดเข้ามาอาศัยอยู่กินได้เพียงสองวันแล้วเห็นว่าบิดาของตนชอบพกเงินสดจำนวนมากครั้งละหลายหมื่นบาท อาจจะคิดไม่ดีกับครอบครัวของตน
จนกระทั่งวันเกิดเหตุช่วงตีสามขณะพ่อและแม่ของตนตื่นขึ้นมาเพื่อชำแหละสุกรที่ลูกค้านำมาให้เชือด 1 ตัว ส่วนตนก็นอนหลับอยู่ภายในบ้าน ก็ได้ยินเสียงปืนดังกึกก้องติดต่อกันถึง 3 นัดตรงบริเวณหน้าบ้านแต่ก็ไม่ได้ออกมาดู รอจนกระทั่งรุ่งเช้าเพื่อตื่นจะออกมาดื่มกาแฟที่หน้าบ้านก็เหลือบไปเห็นพ่อและแม่ของตนนอนเสียชีวิตอยู่ข้างแคร่ไม้ไผ่ จึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ
หลังเกิดเหตุพบว่าเงินสดร่วม 5 หมื่นบาทที่เตรียมไว้ซื้อไม้ยางพาราที่ใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์ของบิดาหายไป อาวุธปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก และอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอกหายไปด้วย ส่วนตัวนายเลียดหลังเกิดเหตุก็ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เพราะเมื่อตอนหัวค่ำทั้งพ่อและแม่พร้อมด้วยนายเลียดยังได้นั่งกินข้าวอยู่ด้วยกัน
ส่วนสาเหตุในครั้งนี้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ เนื่องจากนายเลียดซึ่งเป็นญาติๆ กันกับผู้ตายไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่ง ชอบเร่ร่อนไปเรื่อยๆ ได้เข้ามาขอพักอาศัยอยู่ได้เพียงสองวัน เห็นว่าผู้ตายชอบพกเงินสดจำนวนมากจึงเกิดคิดไม่ดี เมื่อสบโอกาสจึงได้ใช้อาวุธปืนของผู้ตายยิงทิ้งสองผัวเมียที่เป็นญาติกัน ก่อนชิงเอาเงินสดและอาวุธปืนติดตัวไป
ทางด้าน พ.ต.ท.ชัยภัทร ศรีเรือง รอง ผกก.สส.ได้สั่งระดมกำลังชุดสืบสวนออกติดตามล่าตัวนายเลียดแล้วตามจุดต่างๆ ที่คาดว่าน่าจะเป็นที่หลบซ่อนตัว คาดว่ายังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ อ.ทุ่งใหญ่ และคงจะได้ตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายในเร็ววัน
ด้าน พ.ต.อ.สมโชค จันทรมณี ผกก.กล่าวว่า คดีนี้ถือว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ คนร้ายซึ่งเป็นญาติกันแท้ๆ เข้ามาขอพักอาศัยได้เพียงสองวัน เห็นว่าผู้ตายชอบพกเงินสดจำนวนมากจึงเกิดคิดไม่ดี สบโอกาสใช้ปืนของผู้ตายยิงทิ้งทั้งผัวและเมียก่อนจะชิงเอาเงินสดและปืนของผู้ตายติดตัวไปด้วยถึง 2 กระบอก ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนออกติดตามนำตัวมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว.
 
สงวนลิขสิทธิ์ © ข่าว ไทย