หลังจากมีข่าวชาวบ้านร่ำลือกัน ว่า สุดอนาถแท้ๆ ที่ลูกชายใช้ค้อนปอนด์และรถแทรกเตอร์ มารื้อทำลายบ้านของพ่อแม่บังเกิดเกล้าที่ปลูกอยู่ติดกัน จนพังยับเสียหายทั้งหลัง พร้อมไล่ให้ออกจากที่ดินไปอยู่ที่อื่น ทำให้สองตายายวัยกว่า 70 ปี ไร้ที่อาศัย ชาวบ้านต่างวิจารณ์ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เหตุเกิดที่หมู่บ้านหนองเกตุ ม.3 ต.เขาแหลม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี
ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 7 เม.ย. 58 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 25 ม.3 ต.เขาแหลม บ้านเกิดเหตุ พบว่า เป็นบ้านปูนชั้นเดียว หลังคาสังกะสี ปลูกติดกันจำนวน 2 ห้อง ซึ่งห้องด้านทิศตะวันตกเป็นบ้านของ นายนิรัน เอี่ยมกี่ อายุ 45 ปี ส่วนห้องด้านทิศตะวันออกเป็นของ นายเฉลียว เอี่ยมกี่ อายุ 72 ปี และนางสระ เอี่ยมกี่ อายุ 69 ปี สามีภรรยา และเป็นพ่อแม่แท้ๆ ของนายนิรัน
จาก การตรวจสอบพบว่า บ้านหลังด้านทิศตะวันออกของนายเฉลียวและนางสระ มีร่องรอยการทุบทำลาย จนได้รับความเสียหายที่บริเวณประตูด้านหน้า บานหน้าต่างด้านข้าง และประด้านหลัง ที่สร้างด้วยคอนกรีต พร้อมทั้งเสาปูนหักโค่นพังยับ เหลือเพียงสังกะสีหลังคาเท่านั้น โดยทั้งนายเฉลียวและนางสระ สองสามีภรรยา กล่าวว่า สภาพบ้านที่เห็น ที่ได้รับความเสียหายพังพินาศนั้น เป็นฝีมือของนายนิรัน ผู้เป็นลูกชายคนสุดท้อง นั่นเอง
สองตายาย กล่าวอีกว่า พวกตนมีลูกทั้งหมด 4 คน ต่างแยกย้ายไปมีครอบครัวกันหมดแล้ว เหลือเพียงพวกตนสองตายาย ที่ได้รับจ้างทั่วไป หากินไปวันๆ และมีรายได้จากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 600-700 บาท อยู่กินกัน 2 คน ไม่เคยไปรบกวนลูกๆ
กระทั่งเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา นายนิรัน ลูกชายคนสุดท้อง และภรรยาได้เข้ามาปลูกบ้านอยู่ในที่ดินของหลานสาว หลังจากนั้นเมื่อตนเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง จึงได้ทำการปลูกบ้านต่อออกมาจากบ้านของลูกชายอีก 1 ห้อง พอได้อาศัย ซึ่งตอนแรกก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
ต่อมานายนิรัน ลูกชาย ได้หยิบยืมเงินจากพวกตนไปจำนวน 1 หมื่นบาท ต่อมาตนได้พูดจาตกลงขอซื้อที่ดินที่ปลูกบ้านอยู่ ต่อจากหลานในราคา 5 พันบาท จึงได้ทวงถามเงินจากลูกชาย เพื่อไปจ่ายค่าที่ดิน ทำให้ลูกชายไม่พอใจ ถึงขั้นทะเลาะโต้เถียงกัน ก่อนเกิดเหตุ เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน จู่ๆ นายนิรัน ลูกชาย ก็ถือค้อนเหล็กขนาดใหญ่มาทุบหน้าบ้าน ฝาบ้าน และด้านหลังบ้าน โดยไม่ยอมฟังเสียงห้ามปรามจากตนและญาติพี่น้องที่เห็นเหตุการณ์ จากนั้นยังได้นำรถแทรกเตอร์ขนาดเล็ก เข้ามาดันตัวบ้านจนพังเสียหาย พร้อมทั้งขับไล่ให้ตนทั้งสองไปอยู่ที่อื่น
"หลังเกิดเหตุ ญาติๆ และเพื่อนบ้านได้ช่วยกันขนย้ายสิ่งของเครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้ครัวเรือน ที่มีอยู่เพียงเล็กน้อย ออกไปขออาศัยอยู่ที่บ้านหลานสาวที่อยู่ใกล้กันชั่วคราว เนื่องจากยังไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน บ้านที่เคยมีก็มาถูกลูกชายแท้ๆ ทำลายจนพังไปแล้ว ทำให้ต้องกลายเป็นคนไร้ที่อยู่ยามชรา ยอมรับว่ายังทำใจไม่ได้ และรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ที่มีจิตเมตตา ได้ให้ความช่วยเหลือในชีวิตปั้นปลาย ให้ได้มีที่อาศัยเพื่อซุกหัวนอนด้วย" สองตายาย กล่าวทั้งน้ำตา
สำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลือสองตายาย สามารถติดต่อไปได้ที่ โทรศัพท์หมายเลข 081-3495582 นางปานมณี หนูยศ หลานสาว ที่ตายายไปพักอยู่ด้วย
ส่วนนายนิรัน ลูกชาย ที่ถูกระบุว่าเป็นคนพังบ้านพ่อแม่บังเกิดเกล้า ผู้สื่อข่าวได้ถามหาเพื่อจะสอบถามถึงข้อเท็จจริง แต่ปรากฏว่าไม่พบตัว.
