ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน สีเทา หมายเลขทะเบียน ม-1627 สุพรรณบุรี ภายในกระบะรถ พบศพใส่อยู่ในกระสอบป่านข้าวสารปิดอย่างมิดชิด ตรวจสอบภายในกระสอบ พบศพชายเปลือย โดยพบบาดแผลถูกไฟชอร์ตที่บริเวณน่องขาขวาเป็นทางยาว
จากการสอบสวนนายสมเจตน์ อินทร์โชติ อายุ 49 ปี อยู่ ต.นางบวช อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ศพที่เห็นนั้น ตนพร้อมด้วยนายกมล อินทร์โชติ อายุ 54 ปี อยู่ ต.รำมะสัก อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง กำลังจะนำไปหาที่ทิ้งศพ เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนได้ใช้อุปกรณ์ดักชอร์ตพวกหัวขโมยในสวนมะนาว ที่บ้าน อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี พอเช้าตนไปดู ก็พบผู้ตายที่คาดว่าว่ายน้ำข้ามคลองมาเพื่อจะมาลักมะนาว แต่ถูกไฟฟ้าที่ตนติดตั้งไว้ชอร์ตพวกขโมย ตนจึงตัดสินใจโทรหาพี่ชาย คือ นายกมล มาช่วย และนำศพขึ้นรถ ตระเวนหาที่ทิ้ง แต่มาเจอด่านตำรวจเสียก่อน
ด้าน ร.ต.ท.พิภพ กล่าวว่า ระหว่างที่ตนนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรออกตั้งด่านตรวจตามปกติ ระหว่างนั้นนายสมเจตน์ก็ขับรถกระบะคันดังกล่าวมา ตนจึงเรียกให้หยุด เพื่อตรวจค้น ก็ถึงกับตะลึงเมื่อเจอศพอยู่หลังกระบะรถ จึงสอบถามก็ทราบว่าศพที่เห็นกำลังจะนำไปหาที่ทิ้ง จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
พ.ต.อ.สุรพจน์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่าศพที่พบนั้นเป็นคนที่มาขโมยมะนาวที่บ้าน แต่ถูกไฟฟ้าชอร์ต จึงช่วยกันนำศพมาหาที่ทิ้ง ตนจึงประสานไปยังสภ.สามชุก เพื่อตรวจสอบค้นหาชื่อผู้เสียชีวิตและหาข้อมูลเชิงลึกต่อไป ในส่วนคดีนั้นก็คงต้องส่งไปยังสภ.สามชุก เพราะมีการเสียชีวิตตรงนั้น ในส่วนท้องที่สภ.โพธิ์ทองเป็นพื้นที่พบศพเท่านั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.สุรพจน์ เปิดเผยว่า หลังจากนำตัวนายสมเจตน์ และ นายกมล สองพี่น้องมาสอบเครียด จนนายสมเจตน์ รับว่าเป็นผู้ลงมือทำเพียงคนเดียว เมื่อเช้ากำลังสับสน จึงให้การวกวน ซึ่งหลังจากพบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมา คือ นายนิรุต มะลิทอง อายุ 39 ปี อยู่ ต.กระเสียว อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ก็ได้นำขึ้นรถกระบะขับไปรับนายกมล พี่ชายโดยบอกว่าจะชวนไปซื้อของ ก่อนจะขับรถวนไปมาในจังหวัดอ่างทองและมาถูกจับ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาตัวนายสมเจตน์ไปชี้จุดที่เกิดเหตุ โดยพบว่าที่เกิดเหตุอยู่บริเวณทุ่งนา หมู่ 4 ต.สามชุก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี โดยมีไร่มะนาวอยู่ประมาณ 5 ไร่ มีการขุดคูน้ำล้อมรอบและมีการใช้ลวดปักลงไปในคูน้ำต่อกับกระแสไฟฟ้า 220 โวลต์ มาจากบ้านพัก คาดว่าผู้ตายจะมาขโมยมะนาวจึงลงน้ำจนถูกไฟฟ้าชอร์ตดังกล่าว อย่างไรก็ตามนายสมเจตน์รับสารภาพว่าทำเพียงคนเดียวก็ต้องสืบสวนต่อไป ส่วนศพนั้นก็ส่งไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชหาสาเหตุการตายอีกครั้ง ส่วนเรื่องคดีแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกจุดพบศพต้องให้ทางสามชุกดำเนินการ และที่โพธิ์ทองเป็นเรื่องอำพรางศพ
ด้านนางนงค์นุช คำผุด อายุ 43 ปี อยู่ ต.กระเสียว อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี พี่สาวผู้ตาย กล่าวว่า น้องชายมีอาชีพรับจ้างทั่วไป เมื่อคืนออกไปไหนไม่มีใครรู้ มาทราบอีกทีตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตามให้ไปดูศพ ตนเสียใจมากไม่น่ามาเกิดเรื่องแบบนี้เลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการพูดคุยกับนายสมเจตน์ บอกว่า ตอนนำศพขึ้นรถก็ทำอะไรไม่ถูก ขับรถไปก็ไม่รู้จะทิ้งศพที่ไหน สุดท้ายจะนำศพกลับไปทิ่งที่เก่า และแจ้งกำนันในพื้นที่ให้มาดู แต่มาถูกตำรวจับก่อน
