พูดถึงเรื่องของการตั้งด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจบนท้องถนน หลายคนที่เจอก็คงจะหงุดหงิด พร้อมกับภาวนาขอให้ไม่โดนจับ กับสารพัดข้อหา ใครทำถูกต้องตามกฎหมายก็รอดไป
ส่วนใครทำผิดก็ต้องถูกจับปรับไปตามระเบียบ ราวกับว่าเจ้าหน้าที่เป็นห่วงเป็นใยประชาชน ขณะที่ในความเข้าใจของบางคน มองว่า “การตั้งด่านจะเน้นการให้เสียค่าปรับเสียมากกว่า” ไม่มีผ่อนปรนกับชาวบ้าน จนตกเป็นจำเลยสังคมเรื่อง ตำรวจหากินกับค่าปรับ
ที่ผ่านมา ตำรวจนอกแถวถูกแฉรายวัน ทั้งเรียกรับผลประโยชน์ ยัดข้อหาประหลาด มีให้เห็นตามสื่อต่าง ๆ ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่โดนจับ มักเกิดขึ้นกับการตั้ง “ด่านลอย” เป็นการตั้งด่านตรวจที่ไม่ถูกต้อง มีตำรวจซุ่มอยู่ใต้ต้นไม้ มุมตึก หลบอยู่ข้างทางเข้าจับกุมคนใช้รถ ชนิดที่เรียกจับกันแบบซึ่ง ๆ หน้า
อย่างที่ช่วงต้นสัปดาห์ มีหลายกรณีที่มีคลิปแฉออกมาให้เห็น คนใช้รถรายหนึ่งต้องด่ากราดกลางถนน อ้างว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่าน โดยไม่มีเครื่องหมาย หรือให้สัญญาณ และถูกโบกให้จอดในระยะกระชั้นชิด จนเกือบขับรถชน จึงเห็นว่า การตั้งด่านดังกล่าวไม่ถูกต้อง และอาจก่อให้เกิดอันตรายได้
ว่าแล้ว ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันจนได้ เมื่อนักศึกษาแพทย์ ที่ขับรถเก๋งพาเพื่อน ๆ เดินทางจากกรุงเทพฯ กลับนครราชสีมา ตกใจรถบรรทุกเบรกกะทันหัน หักหลบพุ่งชนรองสารวัตรตำรวจทางหลวง ขณะสกัดจับรถยนต์ที่ขับขี่ด้วยความเร็ว ใต้สะพานกลับรถ ถนนมิตรภาพสีคิ้ว จนเสียชีวิต
เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า อันตรายจากการสกัดจับแบบกระชั้นชิด ไม่มีป้ายเครื่องหมายจราจรคำว่า “หยุด” หรือ “หยุดตรวจ” ย่อมไม่เป็นผลดีต่อทั้งตำรวจ และผู้ขับขี่บนท้องถนน และนำมาซึ่งความสูญเสีย
น่าเห็นใจ คดีนี้คนขับถูกตั้งข้อหา “ขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต” กระแสในโลกออนไลน์ ตั้งคำถามว่า เหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงตั้งด่านตรวจโดยที่ไม่มีสัญญาณเตือน การเข้าจับกุมในลักษณะพยายามตัดหน้ารถ ที่ใช้ความเร็วสูง ถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม และเสี่ยงอันตราย ยกเว้นกรณี สกัดกั้นอาชญากรรมร้ายแรง
ทั้งนี้ การตั้งด่านตามถนนหนทาง จะต้องไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน รวมทั้งการตั้งด่านต้องเน้นตรวจอาชญากรรมและความมั่นคง ไม่ใช่ตั้งด่านเพื่อหวังค่าปรับจราจรเป็นหลัก
มาดูกันว่า ด่านตรวจที่ถูกต้องมีลักษณะอย่างไร
-ต้องมีเครื่องหมายบอกล่วงหน้าเป็นระยะว่าข้างหน้ามีด่าน เช่น กรวยสีส้มตั้งเป็นระยะ เพื่อบีบบังคับทิศทางการจราจรให้เหลือช่องเดียวนำไปยังจุดตรวจค้น มีเครื่องหมายจราจรคำว่า “หยุด” หรือ “หยุดตรวจ”
-ในเวลากลางคืนจะต้องให้มีแสงไฟส่องสว่างให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนในระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตร ก่อนถึงจุดตรวจ
-จะต้องมีหนังสือสั่งการให้ตำรวจกลุ่มนี้ปฏิบัติหน้าที่ ก่อนปฏิบัติหน้าที่ตรวจตำรวจสัญญาบัตรที่ควบคุมชุดตรวจ จะต้องแจ้งทางวิทยุสื่อสารไปยังศูนย์ควบคุมข่ายนั้น ๆ ว่า จะเริ่มปฏิบัติการตั้งจุดตรวจสกัด และตรวจสกัดสิ่งใด ตำแหน่งไหน วันเวลาเท่าไรถึงเท่าไร ใครเป็นผู้ควบคุมด้วย กำลังพลทั้งหมดเท่าไร
-ต้องมีนายตำรวจสัญญาบัตรประจำอย่างน้อย 1 คน (ยศตั้งแต่นายร้อยตำรวจตรีขึ้นไป) และต้องแต่งเครื่องแบบให้ถูกต้องในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวด้วย
-หลังจากเลิกปฏิบัติหน้าที่ ตำรวจคนนี้จะต้องสรุปผลการจับกุม ตรวจค้น ว่าพบสิ่งใดบ้าง ทางวิทยุสื่อสารต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมข่าย จากนั้นจะต้องบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร เสนอต้นสังกัด
สำหรับใครที่เดินทางบ่อย มักจะเจอด่านลอยอยู่บ่อยครั้ง ถือว่าเป็นการตั้งด่านที่ไม่ถูกต้อง นอกเสียจากว่า เป็นการสกัดจับอาชญกรรม ความผิดซึ่งหน้า เป็นปัญหาที่ผู้ขับขี่ต้องเผชิญ อาจจะเป็นปัญหาที่คุ้นตา ตราบใดที่ยังไม่มีการแก้ไขอย่างจริงจัง ทางออกที่ดีที่สุดก็คือ ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎจราจร ส่วนเจ้าหน้าที่ก็ออกตรวจตราอย่างถูกต้อง ปัญหาต่าง ๆ ย่อมไม่เกิดขึ้น
ที่มา: mthai.com
