เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 4 พ.ค. 58 พล.ต.ต.มนตรี สัมปุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยุทธชัย พัวประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และ พ.ต.อ.อดุลย์ สมนึก ผกก.สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว นาย เอก (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ จับกุมได้พร้อมของกลาง อาวุธปืนปลอม จำนวน 1 กระบอก เงินสด จำนวน 1 หมื่นบาท สร้อยคอทองคำ จำนวน 1 เส้น เบื้องต้นแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์ โดยมีอาวุธปืน เหตุเกิดเคาเตอร์ชำระเงินทริปเปิลทรีบรอดแบนด์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 84/4 หมู่ 4 ต.แม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
พล.ต.ต.มนตรี สัมปุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 พ.ค. 58 ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ยืนยงค์ ไผ่ล้อม ร้อยเวร สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายเป็นชายจำนวน 1 คน บุกเข้ามายังเคาน์เตอร์ชำระเงินของบริษัทดังกล่าว ก่อนที่จะชักเอาอาวุธปืนปลอมจี้บังคับให้พนักงาน คือนางสาว อริญชยา อายุ 33 ปี และนางสาวผกุลกาญจน์ โดยขู่ให้เปิดลิ้นชักเก็บเงิน ก่อนจะกวาดเอาเงินสดประมาณ 30,000 บาท หลบหนีไปหลังเกิดเหตุทาง พนักงานในร้านตั้งสติได้ จึงได้โทรศัพท์แจ้งให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ริม ทราบ
ต่อมา ทางชุดสืบสวน สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายปิดบังใบหน้าและปฎิบัติการคนเดียว จึงได้ออกสืบสวนหาตัวผู้ต้องสงสัย จนกระทั่งสามารถจับกุมตัว นายเอก ได้ขณะที่กำลังจะไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านแห่งหนึ่ง ในต.แม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จากนั้นจึงได้นำตัวมาทำการสอบสวน
สอบสวน นายเอก ผู้ต้องหา ให้การยอมรับสารภาพว่า ตนเองนั้นมีปัญหาเรื่องเงินที่จะไปขอหมั้นแฟนสาวที่คบหาดูใจกัน แต่ทางญาติฝ่ายเจ้าสาวบอกให้นำเงินมาหมั้นก่อนโดยให้นำสร้อยคอทองคำ 1 บาท มาทำการหมั้นหมาย แต่ตนไม่มีเงิน จึงเกิดความเครียด ไม่รู้จะทำยังไง จึงตัดสินใจ คว้าเอาอาวุธปืนปลอมที่ซื้อมาเล่น บุกเข้าไปจี้เอาเงินที่เคาน์เตอร์ชำระเงินทริปเปิลทรีบรอดแบนด์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 84/4 หมู่ 4 ต.แม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ดังกล่าวก่อนที่จะขี่รถ จยย.หลบหนีไป และได้นำเงินจำนวน 30,000 บาท ไปซื้อสร้อยคอทองคำ ตามที่ญาติแฟนสาวเรียกร้อง และเหลือเงินอีก 10,000 บาท เพื่อจะใช้ในพิธีหมั้นดังกล่าวแต่มาถูกตำรวจตามจับกุมได้ หลังจากสอบสวนเสร็จจึงได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและส่งตัวพร้อมของกลางให้พนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มา: http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1430746103
