มีแต่ไม่พกควบคุมตัวปรับ 1 หมื่น-เสนอ สตช.เพิ่มโทษ พ.ร.บ.จราจร
วันที่ 14 พ.ค. ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) รับผิดชอบงานด้านจราจร เป็นประธานการประชุมการแก้ไขกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก โดยมี พล.ต.ต.อภิสิทธิ์ เมืองเกษม ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) และรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1-9 และฝ่ายกฎหมาย บก.จร.
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้ได้มี การพิจารณาปรับแก้ไขกฎหมายจราจร เนื่องจากกฎหมายบางมาตรามีความล้าสมัย และควรต้องปรับเพิ่มอัตราโทษให้สูงขึ้นเพื่อให้คนเกรงกลัว เช่น เรื่องใบอนุญาตขับขี่ หากไม่มี หรือไม่พกพา ขณะขับขี่ จะเสนอขอแก้ไขเพิ่มอัตราโทษ กรณีไม่มีใบอนุญาตขับขี่จากเดิมที่มีโทษจำคุก 1 เดือนปรับไม่เกิน 10,000 บาท เป็นจำคุก 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท และในกรณีที่มีใบขับขี่แต่ไม่นำติดตัวและไม่สามารถแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ทันที ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมีอำนาจควบคุมตัว และเพิ่มบทลงโทษเป็นปรับตั้งแต่ 5,000-10,000 บาท จากเดิมปรับ 1,000 บาท รวมทั้งยังเสนอให้แก้กฎหมายให้ตำรวจจราจร สามารถตรวจยึดรถที่กระทำความผิดได้ เพราะปัจจุบันตามอำนาจ พ.ร.บ.จราจรทางบก ไม่มีอำนาจยึดรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้อำนาจตาม กฎหมาย ป.วิ.อาญา ซึ่งใช้ได้ชั่วคราวเท่านั้น
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีการเสนอให้เพิ่มโทษในกรณีการขับรถประมาทหวาดเสียว ซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุแก่ผู้อื่น และการขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจรส่งผลให้ การจราจรติดขัด อาทิ ขับรถย้อนศร แซงรถในที่ คับขัน โดยการเพิ่มโทษให้เป็นความผิดลหุโทษและแก้ไขอัตราค่าปรับเป็น 1,000-5,000 บาท จากที่มีอัตราค่าปรับ 400-1,000 บาท สำหรับการเปรียบเทียบปรับ เจ้าหน้าที่สามารถใช้ดุลพินิจเปรียบเทียบปรับได้ตามความเหมาะสม แต่จะต้อง เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ทั้งนี้ ตนได้มอบหมายให้ บก.จร. สรุปเนื้อหาที่จะดำเนินการแก้ไขเพื่อเสนอ สตช.พิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตาม ในการแก้ไขกฎหมายจราจรในครั้งนี้ จะส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น.
วันที่ 14 พ.ค. ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) รับผิดชอบงานด้านจราจร เป็นประธานการประชุมการแก้ไขกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก โดยมี พล.ต.ต.อภิสิทธิ์ เมืองเกษม ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) และรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1-9 และฝ่ายกฎหมาย บก.จร.
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้ได้มี การพิจารณาปรับแก้ไขกฎหมายจราจร เนื่องจากกฎหมายบางมาตรามีความล้าสมัย และควรต้องปรับเพิ่มอัตราโทษให้สูงขึ้นเพื่อให้คนเกรงกลัว เช่น เรื่องใบอนุญาตขับขี่ หากไม่มี หรือไม่พกพา ขณะขับขี่ จะเสนอขอแก้ไขเพิ่มอัตราโทษ กรณีไม่มีใบอนุญาตขับขี่จากเดิมที่มีโทษจำคุก 1 เดือนปรับไม่เกิน 10,000 บาท เป็นจำคุก 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท และในกรณีที่มีใบขับขี่แต่ไม่นำติดตัวและไม่สามารถแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ทันที ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมีอำนาจควบคุมตัว และเพิ่มบทลงโทษเป็นปรับตั้งแต่ 5,000-10,000 บาท จากเดิมปรับ 1,000 บาท รวมทั้งยังเสนอให้แก้กฎหมายให้ตำรวจจราจร สามารถตรวจยึดรถที่กระทำความผิดได้ เพราะปัจจุบันตามอำนาจ พ.ร.บ.จราจรทางบก ไม่มีอำนาจยึดรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้อำนาจตาม กฎหมาย ป.วิ.อาญา ซึ่งใช้ได้ชั่วคราวเท่านั้น
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีการเสนอให้เพิ่มโทษในกรณีการขับรถประมาทหวาดเสียว ซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุแก่ผู้อื่น และการขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจรส่งผลให้ การจราจรติดขัด อาทิ ขับรถย้อนศร แซงรถในที่ คับขัน โดยการเพิ่มโทษให้เป็นความผิดลหุโทษและแก้ไขอัตราค่าปรับเป็น 1,000-5,000 บาท จากที่มีอัตราค่าปรับ 400-1,000 บาท สำหรับการเปรียบเทียบปรับ เจ้าหน้าที่สามารถใช้ดุลพินิจเปรียบเทียบปรับได้ตามความเหมาะสม แต่จะต้อง เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ทั้งนี้ ตนได้มอบหมายให้ บก.จร. สรุปเนื้อหาที่จะดำเนินการแก้ไขเพื่อเสนอ สตช.พิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตาม ในการแก้ไขกฎหมายจราจรในครั้งนี้ จะส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น.
ที่มา: thairath
