BREAKING NEWS

“กรมศิลป์” ลุยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างไม่ได้รับอนุญาตวัดกัลยาณมิตรฯสัปดาห์หน้า

“กรมศิลป์” ลุยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างไม่ได้รับอนุญาตวัดกัลยาณมิตรฯสัปดาห์หน้า

จากกรณีกรมศิลปากรแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุปผาราม ให้ดำเนินคดีกับผู้สั่งการและคนงาน ที่ทำลายโบราณสถานและก่อสร้างอาคารในเขตโบราณสถาน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมศิลปากร ภายในวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ถ.อรุณอมรินทร์ตัดใหม่ แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี ตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบัน มีจำนวนคดี ทั้งหมด 16 คดี อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง 10 คดี ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการนั้น  
 ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่กรมศิลปากร นายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ทางวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ไปร้องต่อศาลปกครอง และมีการยื่นอุทธรณ์คดีต่อปลัดกระทรวงวัฒนธรรม แต่ปรากฏว่าคำอุทธรณ์ไม่เป็นผล จึงถูกยกไป ส่วนคำร้องต่อศาลปกครองที่เป็นคดีดำที่457/2552 ขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งยกเลิก คำสั่งห้ามให้วัดกระทำการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในเขตโบราณสถาน แต่ในเวลาต่อมาปรากฏว่าคดีได้มีการยุติลง เพราะทางวัดผู้ฟ้องคดีขอถอนฟ้อง ดังนั้น ศาลปกครองจึงมีคำพิพากษาให้กรมศิลปากรสามารถดำเนินการได้ ตามอำนาจหน้าที่ของกรมศิลปากรในมาตรา 7 ทวิ ตามพ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 แก้ไขเพิ่มเติม 2535

 “ขั้นตอนหลังจากนี้ทางกรมศิลปากร จะมอบหมายให้นิติกรส่งหนังสือแจ้งไปยังพระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ พร้อมแนบคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ให้ทราบก่อนล่วงหน้าว่ากรมศิลปากรจะเข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่กรมศิลปากรไม่ได้อนุญาต พร้อมจะกำหนดวันเวลาเข้าไปทำการรื้อถอนภายในสัปดาห์หน้าด้วย โดยจะเข้าดำเนินการรื้อถอนศาลารายบริเวณด้านหลังพระวิหารหลวง 2 หลังซึ่งสร้างขึ้นบนตำแหน่งโบราณสถาน คือ ศาลาเสวิกุล และศาลาทรงปั้นหยา จากทั้งหมด 15 รายการ ที่เป็นโบราณสถานที่ทางวัดได้ทุบทำลายของเดิมและสร้างขึ้นใหม่” อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว 

 นายบวรเวท กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าว มีความยืดเยื้อตั้งแต่เดือนพ.ค.2552 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 6 ปี ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ที่ยังไม่มีการดำเนินการรื้อถอนอาคารนั้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลมาจากการตัดสินคดีที่เกี่ยวข้องไม่สิ้นสุด ตนในฐานะอธิบดีกรมศิลปากรและเป็นข้าราชการ ก็ต้องดำเนินการตามอำนาจที่มีอยู่ ซึ่งหากไม่ดำเนินการก็ต้องถูกมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ส่วนคดีความผู้กระทำความผิดนั้น ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเสร็จสิ้นให้เรียบร้อยก่อน และหากมีการซักทอดผู้กระทำผิดรายใด ก็คงต้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป 

 “อย่างไรก็ตาม ในการรื้อถอนกรมศิลปากร จะมาพิจารณาตามแบบอาคารโบราณสถานเดิมว่า เคยเป็นอะไรมาก่อน และต้องดูว่า ถ้าจะต้องสร้างอาคารขึ้นมาใหม่ ตามแบบโบราณสถานเดิม ก็อาจทำได้ แต่จะต้องให้ศาลอาญาพิจารณาคดีให้สิ้นสุดก่อน จากนั้นกรมศิลปากรจะดำเนินการฟ้องกฎหมายแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหาย ตามที่วัดได้รื้อถอนโบราณสถานเดิมไป ซึ่งทางวัดจะต้องชดใช้ค่าเสียหายการปลูกสร้างโบราณสถานเดิมด้วย เพื่อนำเงินส่วนนั้นมาสร้างอาคารขึ้นใหม่” นายบวรเวท กล่าว 
“กรมศิลป์” ลุยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างไม่ได้รับอนุญาตวัดกัลยาณมิตรฯสัปดาห์หน้า
ที่มา: khaosod
 
สงวนลิขสิทธิ์ © ข่าว ไทย